Studio Tandem เบื้องหลังงานเดกคอเรต ที่บ่าวสาวยกนิ้วว่า เป๊ะปัง สุด ๆ
ช่วงเวลาปลายปีนอกจากเป็นไฮซีซันของการท่องเที่ยว ยังเป็นไฮซีซันของธุรกิจรับจัดงานแต่งงาน ว่ากันว่าวันที่ผู้หญิงจะสวยที่สุดในชีวิต คือวันแต่งงาน วันที่เธอจะเป็นศูนย์กลางของจักรวาลในค่ำคืนที่สำคัญที่สุด แม้จะเลือกสถานที่จัดงานเหมือนกับคู่อื่น แต่ต้องมีความพิเศษและแตกต่าง ธีมต้องเป๊ะ งานต้องปัง ที่สำคัญคือ ต้องสร้างความทรงจำดีๆ ประทับใจไม่เพียงกับคู่บ่าวสาว แต่รวมถึงแขกพิเศษทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดี
Studio Tandem หนึ่งใน Wedding Vendor ที่บ่าวสาวหลายต่อหลายคู่ยกนิ้วให้ว่าออกแบบได้ตรงใจ ไม่มากไปไม่น้อยไป แต่ได้คุณภาพของงานที่เนี้ยบอย่างที่ต้องการภายในบัดเจ็ตที่กำหนด
ภัสสรา สีละพัฒน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Studio Tandem ผู้อยู่เบื้องหลังการเนรมิตงานแต่งงานในฝันให้กับคู่บ่าวสาวจำนวนมาก ด้วยสไตล์การออกแบบที่เป็นโครงสร้าง Modular บอกว่า รูปแบบที่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมจะเป็นโครงสร้าง Modular ที่ทางบริษัทออกแบบขึ้นมาเอง สามารถปรับให้เข้ากับสถานที่ทั้งเล็กใหญ่ และจัดเรียงได้หลายแบบ หลากขนาด ประกอบกับดอกไม้และองค์ประกอบตกแต่งอื่นๆ ให้เป็นรูปแบบตามที่ลูกค้าต้องการ
“ด้วยความที่เราเป็น Industrial Designer ไม่ใช่ Artist สไตล์การออกแบบจะทำแบบตามโจทย์ลูกค้า ได้ทุกแบบ เราเป็นเหมือนน้ำ ไปอยู่ในภาชนะอะไรก็เป็นรูปทรงนั้น”
จุดเด่นที่ดึงดูดลูกค้าหลักๆ คือ มีโปรดักชันเอง ยังมีทีมดีไซน์ของเราเองด้วย จึงมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการทั้งรูปแบบงานดีไซน์และการเลือกใช้วัสดุเพื่อให้สามารถคุมค่าใช้จ่ายให้ลงตัวได้ตามที่ลูกค้ากำหนด โดยโครงสร้างที่ทำเคลื่อนย้ายง่าย สามารถถอดประกอบได้ สะดวกต่อการติดตั้ง
ภัสสรา เล่าว่า เทรนด์การจัดงานแต่งงานในปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว การจัดงานใหญ่แบบเชิญแขก 700-1,000 คนไม่ค่อยมีแล้ว สเกลของงานจะเล็กลง 250-300 คน ถือว่ามาก แต่ทุ่มกับงานแต่งมากขึ้น ให้ความสำคัญกับรายละเอียดของงาน เพื่อให้แขกประทับใจ เป็นที่จดจำ ไม่ใช่แค่มากินข้าวกันแล้วกลับเหมือนงานแต่งงานเมื่อก่อน
ภายในงานเลี้ยงนอกจากอาหาร จะต้องมีกิจกรรมให้แขกได้มีส่วนร่วม ทั้งเกม มีโฟโต้บูทหลายๆ จุดให้ได้ถ่ายรูปไปแชร์ในโซเชียลมีเดีย มีอาฟเตอร์ ปาร์ตี้ แบบเป็นส่วนตัว จัดเต็มด้วยระบบแสงเสียง มีดีเจดังๆ หรือนักร้อง วงดนตรีที่ชอบมาสร้างสีสันให้กับงาน หรือบางคู่นิยมจัดเลี้ยงแบบ Long Table เน้นอาหารฝีมือเชฟระดับ เอ-ลิสต์ ต้องมีการยืนยันจำนวนแขกที่เข้าร่วมงาน รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยของประเภทอาหารที่ต้องหลีกเลี่ยง แม้ว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวจะแพงกว่าบุฟเฟต์ก็ตาม เพราะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต
“แม้สเกลของงานจะเล็กลง แต่รายละเอียดแน่น ซึ่งพลาดไม่ได้เพราะงานแต่งงานมีแค่วันเดียว ไม่สามารถแก้ไขได้ ฉะนั้นทุกอย่างต้องเป๊ะ โดยหลักๆ เราจะดูแลการทำเดกคอเรต ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เป็นเซอร์วิสเสริมของงาน เช่น แนะนำเรื่องอาหาร ทำงานเป็นเหมือนกึ่ง Wedding Planner เหมือนเป็นแม่งานให้ อาศัยประสบการณ์แนะนำลูกค้าว่าตอนไหนต้องเตรียมตัวอะไร ช่างแต่งหน้าต้องมากี่โมง คือเป็นเหมือน Co-ordinate มากกว่า”
โรแมนติกแบบรักษ์โลก
ความได้เปรียบประการหนึ่งของ Studio Tandem คือการมีฝ่ายโปรดักชันเอง ออกแบบและจัดทำโครงสร้างของงานเดกคอเรต เอง จึงสามารถปรับประยุกต์การใช้วัสดุให้สอดรับกับงบประมาณที่กำหนด ซึ่งหัวใจหนึ่งของการตกแต่งสถานที่คือ “ดอกไม้”
ลูกค้าส่วนใหญ่จะอคติเรื่องดอกไม้ประดิษฐ์ แต่ปัจจุบันเปิดใจมากขึ้น ดอกไม้ประดิษฐ์เกรดดีดูด้วยตาแทบไม่ต่างจากดอกไม้จริง เรามองในแง่ของกระแสรักษ์โลกด้วย ที่ผ่านมาแทบจะทุกงานเมื่องานจบ ทุกอย่างลงถังขยะ เสียดายมากเพราะมันมีชีวิตอยู่ในงานแค่ไม่กี่ชั่วโมง บางงานเฉพาะค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกไม้สดราคาหลักแสนบาท จบงานแล้วต้องขนดอกไม้สดไปทิ้งเป็นคันรถ
ทั้งนี้ ถ้าให้เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่องานของการใช้ดอกไม้ประดิษฐ์และดอกไม้สด ภัสสราย้ำว่า ดอกไม้สดแพงกว่าดอกไม้ประดิษฐ์มากถึง 1 เท่าตัว เพราะนอกจากต้องใช้ดอกไม้ในปริมาณที่มาก ยังต้องใช้ทีมงานจำนวนมากในการจัดเตรียมงาน ราคาดอกไม้สดนั้นยังขึ้นชนิดของดอกไม้และฤดูกาลอีกด้วย ถ้าเป็นช่วงวาเลนไทน์จะแพงขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว ขณะที่ดอกไม้ประดิษฐ์สามารถใช้ได้หลายครั้ง โดยจะใช้ทั้งดอกไม้ประดิษฐ์และดอกสดร่วมกัน แล้วแต่พื้นที่ที่ใช้ตกแต่ง ถ้าใกล้ตาจะเลือกใช้ดอกไม้สด
เสริมธุรกิจ “เอสเอ็มอี”
ที่น่าสนใจคือ งานเดกคอเรต สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าต่างๆ ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและกระตุ้นยอดขายได้อย่างแนบเนียน โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ผู้คนใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ภัสสรา บอกว่า ในส่วนของงานบริการ ลูกค้าหลักร้อยละ 80 เป็นลูกค้าจัดงานแต่งงาน ซึ่งมีทั้งคู่แต่งงานทั่วไปที่ติดต่อเข้ามาหาโดยตรง และลูกค้าที่ทางบริษัทเป็นพาร์ตเนอร์ด้วย เพราะเป็นอินเฮ้าส์ให้กับโรงแรมในการจัดดอกไม้ จัดงานแต่งงาน ซึ่งปัจจุบันนิยมขายงานจัดเลี้ยง สถานที่พร้อมเดกคอเรต เราเข้าไปเสริมธุรกิจให้กับสถานที่จัดงาน ถือว่าวินวินทั้งคู่ เจ้าของสถานที่ก็ได้ผู้เชี่ยวชาญช่วยเป็นที่ปรึกษา ช่วยออกแบบให้
นอกจากนี้ก็ยังมีลูกค้าธุรกิจ เช่น งานเปิดตัวสินค้า งานจัดเลี้ยง โดยทำเดกคอเรต ให้กับสถานที่จัดเลี้ยงเมื่อมีงานอีเวนต์ของธุรกิจประเภทคอนโดมิเนียม เช่น งานเปิดตัวโครงการขาย ฯลฯ
ขณะเดียวกันการที่ Studio Tandem ออกแบบโครงสร้าง Modular System เอง สามารถถอดประกอบได้ จัดเรียงได้หลายแบบ หลากขนาด จึงมีบริการให้เช่าแบคดรอป หรือโครงสร้างต่างๆ เพื่อนำไปติดตั้งเอง ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอี ที่มีบัดเจ็ตน้อย ซึ่งรวมถึงกลุ่มแม่ค้าออนไลน์ด้วย
ภัสสรา อธิบายเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีส่วนสำคัญอย่างมากในการเสริมต่อยอดขาย ตัวอย่างเช่น งานออกบูทของกลุ่มเอสเอ็มอี การจัดแต่งหน้าร้านช่วยให้บูทเป็นที่สนใจ ดึงดูดลูกค้าให้มาถ่ายรูปและแชร์อวดกันลงในโซเชียลมีเดีย ร้านค้าก็เหมือนได้โปรโมตด้วย เป็นการช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ค้ารายย่อยที่มีบัดเจ็ตจำกัด ซึ่งสามารถเข้าไปทำความรู้จักกันได้ในทุกแพลตฟอร์มของ studiotandem.event
ภัสสรายังบอกถึงความตั้งใจว่า ไม่ว่าจะเป็นบ่าวสาวหรือกลุ่มธุรกิจ เราเป็น “คู่คิด” ที่ทำให้งานได้ออกมาในแบบที่อยากได้และในบัดเจ็ตที่ต้องการ
เหมือนกับคำว่า “Tandem” ซึ่งเป็นโลโก้ของบริษัท คือจักรยานแบบขี่ 2 คน สัญลักษณ์ของการแต่งงาน สื่อถึงความสัมพันธ์ที่ต้องช่วยกันทั้งคู่ ลูกค้ากับเราต้องเป็นทีมเวิร์กเดียวกัน จักรยานจึงจะวิ่งไปข้างหน้าได้.