10 by Sol and Gravit เบื้องหลังความสวยปังระดับโลก ที่เจ้าสาวหลงรัก งบไม่แรง
การได้สวมชุดแต่งงานของ Zuhair Murad หรือ Elie Saab สักครั้งในชีวิตคือความใฝ่ฝันของผู้หญิงหลายๆ คน ยอมที่จะจ่ายเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง บ้างบินไปชอปปิงชุดเจ้าสาวแบรนด์หรูดีไซน์ถูกใจถึงต่างประเทศ ทว่า ปัจจุบันการได้สวมชุดเจ้าสาวแบรนด์หรูเบอร์ต้นของโลกไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม ไม่เพียงไม่ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปไหนไกล ยังสามารถเลือกลองได้หลากแบรนด์ในสถานที่เดียว ด้วยงบประมาณที่ควบคุมได้ ไม่แรง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Elie Saab ที่เหล่าเซเลบนิยมสวมใส่อวดโฉมบนพรมแดงฮอลลีวูด Zuhair Murad งานปักงานลูกไม้ใหญ่อลังการ ฝีมือดีไซเนอร์เลบานอน Oscar de la Renta ชุดแต่งงานแถวหน้าครองใจเจ้าสาวมาตั้งแต่เปิดคอลเล็กชันเจ้าสาวครั้งแรกเมื่อปี 2006 หรือ Jenny Packham ผลงานนักออกแบบแฟชั่นชาวอังกฤษ ดีไซเนอร์โปรดดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ รวมทั้งแบรนด์ไทยที่มีชื่อเสียงอื่นๆ รวมเกือบ 20 แบรนด์ มีให้เลือกสรรกว่า 2,000 ชุด ที่สำคัญคือ ไม่ต้องเสี่ยงลุ้นว่าในวันจริงสวมชุดแล้วจะไม่พอดีตัว ไม่สวยอย่างที่คาดหวัง เพราะสามารถฟิตติ้งชุดให้เข้ากับรูปร่างได้ราวกับสั่งตัด เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเคียงข้างเจ้าบ่าวได้อย่างมั่นใจในวันสำคัญ ทำฝันให้เป็นจริงด้วยงบไม่แรง“คุณเทน” หรือ ธนินท์รัฐ ธนันธนินโชตน์ แห่ง 10 by Sol and Gravit บอกว่า 10 by Sol and Gravit เป็นร้านที่รวมชุดแต่งงานแบรนด์เนมที่มากที่สุดในไทยสำหรับเช่า! จากเจ้าของร้านนำเข้าชุดแต่งงานแบรนด์เนมหรูระดับเบอร์ต้นของโลก เป็นตัวแทนจำหน่ายแบบเอ็กคลูซีฟ (Exclusive Distributor) ได้ลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายหนึ่งเดียวของประเทศไทย โดยมีแบรนด์ยืนพื้นประมาณ 10 แบรนด์ อาทิ Zuhair Murad, Elie Saab, Jenny Packham, Oscar de la Renta, Pronovius, Viktor&Rolf ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบิ๊กเนมในตลาดชุดแต่งงาน มีชื่อเสียงในด้าน ready to wear ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากดาราฮอลลีวูด เปิดให้บริการแก่ลูกค้าไฮเอนด์มานานนับ 10 ปี ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ธนินท์รัฐ บอกว่า ในระยะหลังเริ่มมีคนที่อยากได้ชุดแต่งงานแบรนด์นอก แต่ไม่อยากเก็บชุดไว้ มาปรึกษาถึงการฝากให้เช่าต่อ ขณะที่ตลาดชุดแต่งงานในประเทศไทยก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะให้เช่า และ “เช่าตัด” หมายความว่าออกแบบได้ตามความชอบของว่าที่เจ้าสาว เมื่องานแล้วเสร็จจะต้องคืนทางร้าน ซึ่งชุดเช่าตัดระดับที่มีชื่อราคาอยู่ในหลักแสนบาท “ผมมองว่าราคาค่าเช่าตัดถ้าเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยสูงถึง 120,000-150,000 บาท การเช่าแบรนด์เนมน่าจะคุ้มราคากว่า เพราะไม่ต่างจากการสั่งแบรนด์เนมจากต่างประเทศ สามารถบอกเพื่อนได้อย่างภาคภูมิใจว่า สวมแบรนด์ Jenny Packham หรือแบรนด์ Oscar de la Renta และยังตอบความฝันของเจ้าสาวสักครั้งในชีวิต” การเปิดร้านให้เช่าชุดแต่งงานแบรนด์เนมจึงเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการชุดเจ้าสาวดีไซน์ต่างประเทศในงบประมาณที่กำหนดได้ ประจวบกับภาวะเศรษฐกิจทำให้คนนิยมการเช่าชุดมากขึ้น 10 by Sol and Gravit จึงเปิดตัวขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน บนถนนลาดพร้าว ระหว่างซอย 34-32 โดยชุดแต่งงานส่วนหนึ่งจะมาจากร้านที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี อีกส่วนลูกค้านำมาฝากให้เช่า มีให้เลือกกว่า 2,000 ชุด เกือบ 20 แบรนด์ สนนราคาค่าเช่า 40,000 ขึ้นไปจนถึง 250,000 บาท ซึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการฝากเช่า ทางร้านก็ให้บริการเช่นกัน เลือกแบรนด์ที่รักในสไตล์ที่ชอบ “ลูกค้าส่วนใหญ่จะทราบดีว่าถ้าเป็น Zuhair Murad หรือ Elie Saab ต้องมาที่นี่ อย่างว่าที่เจ้าสาวจากกัมพูชาก็จะนิยมบินมาเช่า Zuhair Murad จากที่ร้าน” ธนินท์รัฐ บอก เมื่อถามถึงกระแสความนิยมของชุดแต่งงานในปีนี้ ในฐานะผู้ที่คร่ำหวอดในแวดวงมากว่า 10 ปี บอกว่าถ้าให้ตอบว่าปีนี้สไตล์ไหนมาแรงคงยาก เพราะทุกวันนี้ทุกแบรนด์มักออกแบบให้ในหนึ่งคอลเล็กชันมีครบทุกแบบทุกสไตล์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นชุดเจ้าสาวทรงเจ้าหญิง ทรงเมอร์เมดหรือหางปลา ทรงเอไลน์ หรือสไตล์ปักเลื่อม งานลูกไม้มากหรือน้อยมีให้เลือกหมด ขึ้นกับความชอบของลูกค้า อย่างในงาน Bridal Fashion week ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ครั้งล่าสุด แบรนด์ดังๆ อย่าง Pronovius นำเสนอเซคชัน โมเดิร์น พรินเซส ที่คัตติ้งเป็นโมเดิร์นไปเลย แต่ถ้าชอบลูกไม้ก็จะมีกลุ่มงานลูกไม้ให้เลือกเช่นกัน คือในหนึ่งคอลเล็กชันจะมีให้เลือกมากถึง 40-50 แบบ ส่วนทาง 10 by Sol and Gravit จะมีหน้าที่คัดสรรชุดแต่งงานที่ถูกใจลูกค้าคนไทย ยกตัวอย่างเช่น ถ้างานหมั้นตอนเช้ามักจะนิยม Jenny Packham ซึ่งเป็นแบรนด์ของอังกฤษ ที่เจ้าหญิง เคท มิดเดิลตัน โปรดสวมตลอด เป็นชุดที่รายละเอียดไม่มาก ทรงตรง เน้นคัตติ้ง ส่วนงานเลี้ยงตอนเย็นจะใช้ชุดใหญ่ อย่าง Zuhair Murad กับ Elie Saab ซึ่งเป็นความฝันของเจ้าสาว ทั้งสองแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ระดับต้นๆ ของโลก มีจุดเด่นที่งานปักและลูกไม้ ต่างกันที่ Elie Saab แม้จะปักแน่นปักละเอียด แต่ให้อารมณ์ออกหวานกว่า โก้ และคลาสสิกกว่า ซึ่งถ้าชอบงานปักอลังการมากๆ จะนิยม Zuhair Murad เลือกชุดแต่งงานสำคัญที่ตัวเอง เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ถือเป็นช่วงที่ว่าที่เจ้าสาวจะมาชอปปิงชุดแต่งงาน ธนินท์รัฐ บอกว่า เจ้าสาวส่วนใหญ่ที่ก้าวเข้ามาในร้านมักจะทำการบ้านมาก่อน เลือกแบบที่ชอบมาจากบ้าน แต่สุดท้ายต้องมาดูที่หน้างาน เพราะแบบที่ชอบบางครั้งก็ไม่ใช่ บางคนคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับลูกไม้ แต่เมื่อใส่ขึ้นมาจริงๆ อาจจะช่วยเสริมบุคลิก ดึงจุดเด่นของตัวแบบออกมาส่งให้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดก็ได้ ซึ่งจากประสบการณ์ทั้งที่ศึกษาข้อมูลในหลายประเทศพบว่า การตัดสินใจเลือกชุดเจ้าสาวนั้น 70% มาจากความชอบของเจ้าสาว ส่วน 30% จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากทางร้าน ที่ 10 by Sol and Gravit จึงมี คุณปุ๊ก สมจิตร ประไพศรี ที่อยู่ในแวดวงร้านให้บริการชุดแต่งงานมาเป็นสิบปี ทั้งยังเป็นช่างเสื้อฝีมือดี คอยดูแลและให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าด้วยความเข้าใจดีว่ารูปร่างแบบไหนเหมาะกับชุดทรงไหนสไตล์ไหน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ความมั่นใจในตนเองของเจ้าสาว เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราชอบสไตล์ไหน และสวมใส่แบบไหนจึงจะมั่นใจที่สุดมากไปกว่าตัวเอง แนะนำว่าการมาลองชุดควรพาคนที่ใกล้ชิดที่ช่วยตัดสินใจได้จริงๆ มาด้วย เช่น เจ้าบ่าว เพื่อนสนิท หรือพ่อแม่เท่านั้น อย่าลืมว่ามากคนหลายความคิด แล้วคนที่เขวก็คือเจ้าสาว กลายเป็นความกังวลไม่มั่นใจกับสิ่งที่เลือก เพราะเมื่อได้ต้องลองใส่จริง เห็นว่าฟีลลิ่งที่สวมขึ้นมาบนตัวเป็นอย่างไรแล้ว สุดท้ายเจ้าสาวต้องตัดสินใจเอง เพื่อจะหาชุดที่ใช่จริงๆ.