รพ.ธนบุรีบูรณา จับมือ สตช.- กคช.แก้ปัญหายาเสพติดชุมชน
รพ.ธนบุรีบูรณา จับมือ สตช.- กคช.แก้ปัญหายาเสพติดชุมชน
โครงการชุมชนเคหะยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ
จากการประชุมเสวนาเพื่อดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืน และแก้ไขขับเคลื่อนโครงการชุมชนเคหะยั่งยืนแก้ปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีพลตำรวจเอกรอบ อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมเสวนา พร้อมด้วย นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และ โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ภายใต้การบริหารงาน บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำโดย ทิมโมตี้ เลิศสมิติวันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ณ ห้องประชุมศรียานนท์ อาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อไม่นานมานี้
ล่าสุด โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ได้ตอบรับความร่วมมือกับทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการเคหะแห่งชาติ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน โดยพร้อมเปิดตัว “Renaissance Clubs” พื้นที่สำหรับใช้เป็นสถานพักฟื้นผู้ที่ต้องการบำบัดและรักษาอาการติดยาเสพติด ที่มาพร้อมการดูแลจากทีมแพทย์ และพยาบาล ที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างใกล้ชิด โดยนายทิมโมตี้ เลิศสมิติวันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา กล่าวว่า Renaissance Clubs มาพร้อมแนวคิดการรักษา และการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ผู้ติดยานอนหลับ ผู้เสพยาไอซ์ รวมถึง ผู้ติดสารเสพติด และแอลกอฮอลล์ของ CHICAGOINDEPENDENCE DRUG & ALCOHOL TREATMENT PROGRAM และ LONGTERM RECOVERY IN CALIFORNIA ซึ่งเป็นโปรแกรมการบำบัดแบบ Dual Diagnosis “ผมเชื่อว่า ความร่วมมือระหว่าง รพ.ธนบุรีบูรณา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการเคหะแห่งชาติ จะนำไปสู่การสร้างสังคมที่ดี โดยทาง Renaissance Clubs ของเราได้บูรณาการกระบวนการในการรักษาฟื้นฟูและจัดเป็นโปรแกรมสำหรับผู้เข้ารับบริการแบ่งเป็นระยะต่างๆ กัน ซึ่งถือเป็นลักษณะเฉพาะของ Renaissance Clubs ของโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา”
ด้าน พญ.เทวิกา ศรีจำปา รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา กล่าวด้วยว่า ความร่วมมือดังกล่าว เป็นการช่วยให้ผู้เข้ารับบริการได้ฟื้นฟูสภาพร่างกาย จิตใจ ให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พร้อมกับมีสติตื่นรู้ “ในการบำบัดของเรามุ่งเน้นไปที่การสร้างแรงจูงใจเชิงบวกให้กับผู้เข้ารับการฟื้นฟู เพื่อสร้างอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ป่วย ให้เลิกการพึ่งพาการใช้ยา การดื่ม หรือ สารเสพติด ซึ่งเรายังมีกิจกรรมต่างๆ เข้ามาเสริมเพื่อช่วยบำบัดและฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยไปพร้อมกันด้วย เพราะจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้ที่เข้ารับการบำบัด ได้หยุด และคิดถึงความเป็นไปได้ในอนาคต ก่อนที่จะกลับคืนสู่สังคมอย่างเป็นปกติ และมีความสุขได้อีกครั้ง”
ขณะที่ พล.ต.ท.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ Renaissance Club กล่าวว่า นอกจากแผนการบำบัด และรักษา ที่มีการจัดวางมแผนอย่างเป็นระบบแล้ว อีกสิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการเตรียมการกลับคืนสู่สังคมของผู้เข้ารับบริการหลังการบำบัดสิ้นสุด “ผู้เข้ารับบริการทุกคนจะมีแผนการเฉพาะเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะแผนการกลับคืนสู่สังคม และครอบครัวอันเป็นที่รัก โดยทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การพิจารณาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เมื่อสิ้นสุดกระบวนการติดตามผลการฟื้นฟู ก่อนส่งต่อใบสรุปผลการวินิจฉัยไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นการรีเช็คผู้เข้ารับบริการอีกครั้ง หากพบว่ายังไม่หายขาด ก็จะได้รับการกลับมาเข้ามารับบริการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ และมีความสุขกับครอบครัวอีกครั้ง”
